(คณะกรรมการบริหารได้มีมติให้นำหลักจรรยาบรรณมาใช้ปฏิบัติในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2561)
หลักจรรยาบรรณนี้ครอบคลุมแนวปฏิบัติและขั้นตอนในการดำเนินธุรกิจโดยรวม โดยกำหนดหลักการพื้นฐานเพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติแก่พนักงานทั้งหมดของบริษัท ได้แก่ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับ รวมถึงตัวแทน ผู้ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนของบริษัทและที่ปรึกษาบริษัท ด้วย

  1. รายละเอียดหลักจรรยาบรรณการปฏิบัติตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ และระเบียบ เราต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายของบ้านเมือง หลักเกณฑ์และระเบียบต่าง ๆ ของประเทศที่บริษัทดำเนินกิจการอยู่ ทั้งในประเทศไทยหรือประเทศอื่น หากมีความไม่แน่ใจให้ขอคำปรึกษาจากผู้บังคับบัญชาของตน
  2. ผลประโยชน์ทับซ้อน อาจเกิดขึ้นเมื่อนำผลประโยชน์ส่วนตัวไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของบริษัท ในกรณีที่กรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงาน กระทำการหรือมีผลประโยชน์ที่อาจทำให้เกิดความยากลำบากในการปฏิบัติงานอย่างยุติธรรม และมีประสิทธิภาพ ผลประโยชน์ทับซ้อนอาจเกิดขึ้นเมื่อกรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานและสมาชิกในครอบครัวของบุคคลข้างต้น ได้รับผลประโยชน์ส่วนตัวที่ไม่เหมาะสมอันเป็นผลจากตำแหน่งหน้าที่ในบริษัท ยกตัวอย่างผลประโยชน์ทับซ้อน เช่น การที่กรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานไปปฏิบัติงานให้กับคู่แข่ง ลูกค้าหรือคู่ค้าพร้อมกัน ไม่ว่าจะในฐานะที่ปรึกษาหรือสมาชิกของคณะกรรมการบริหารบริษัทอื่นใดก็ตาม จึงควรหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ทางธุรกิจทั้งทางตรง และทางอ้อมกับคู่แข่ง ลูกค้า หรือคู่ค้า ยกเว้นภายใต้แนวทางที่ได้รับอนุมัติโดยคณะกรรมการบริหารของบริษัท หากมีข้อสงสัยให้ขอคำปรึกษาจากผู้บังคับบัญชาของตนหรือฝ่ายบริหารระดับสูงขึ้นไป ในกรณีที่กรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานผู้ใดที่รับทราบถึงความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น ควรแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาของตนหรือฝ่ายบริหารระดับสูงขึ้นไปทันที
  3. โอกาสทางธุรกิจ ห้ามมิให้กรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงาน ใช้โอกาสจากการใช้ทรัพย์สิน ข้อมูล หรือตำแหน่งในบริษัท เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่ได้รับการยินยอมจากคณะกรรมการบริหาร และห้ามมิให้พนักงานทำธุรกิจใด ๆ ที่เป็นการแข่งขันกับบริษัท ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม
  4. การแข่งขันและการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน ควรเคารพในสิทธิ์ และปฏิบัติตนอย่างยุติธรรมกับลูกค้า คู่ค้า และคู่แข่ง โดยห้ามมิให้กระทำการลักขโมยข้อมูลที่มีเจ้าของ เข้าถึงข้อมูลความลับทางการค้าที่ได้มาโดยไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หรือใช้ข้อได้เปรียบที่ไม่ยุติธรรมต่อผู้อื่นผ่านการโยกย้าย การปกปิด การใช้ข้อมูลเอกสิทธิ์ในทางที่ผิด การนำเสนอข้อมูลสำคัญที่ผิดพลาด หรือการปฏิบัติอันแสดงถึงการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมโดยเจตนาอื่นใดทั้งสิ้น
  5. การเลี้ยงรับรอง การให้หรือรับของขวัญ วัตถุประสงค์ของการให้การเลี้ยงรับรองทางธุรกิจหรือของขวัญในเชิงพาณิชย์ คือการสร้างไมตรีจิตและสร้างความสัมพันธ์ในการทำงานที่ดี โดยไม่แสวงหาความได้เปรียบที่ไม่เป็นธรรมจากลูกค้า คู่ค้าหรือคู่แข่ง พนักงานของบริษัทตลอดจนบุคคลในครอบครัวของพนักงานหรือตัวแทน ไม่ควรรับข้อเสนอ รับ หรือยอมรับของขวัญ หรือการเลี้ยงรับรองจากลูกค้า คู่ค้าหรือคู่แข่ง ยกเว้นของขวัญหรือการเลี้ยงรับรองนั้น (1) ไม่อยู่ในรูปเงินสด (ข) สอดคล้องกับแนวปฏิบัติทางธุรกิจปกติ (ค) ไม่ได้มีมูลค่าสูงเกินไป (ง) ไม่สามารถทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นสินบน และ (จ) ไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือระเบียบใด ๆ หากไม่แน่ใจให้ปรึกษาผู้บังคับบัญชาของตน
  6. การเลือกปฏิบัติและการคุกคาม บริษัทให้โอกาสที่เท่ากันในทุกมิติของการจ้างงาน และจะไม่ยอมรับซึ่งการเลือกปฏิบัติที่ผิดกฎหมายหรือการคุกคามประเภทใดทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น ความเห็นในทางเสื่อมเสียที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติ หรือคุณลักษณะทางชาติพันธุ์ ศาสนา การเมือง วัฒนธรรม ตลอดจนการคุกคามทางเพศที่ไม่พึงประสงค์ด้วย
  7. สุขอนามัยและความปลอดภัย บริษัทมีความพยายามที่จะจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย และมีสุขอนามัยที่ดีสำหรับพนักงานทุกคน ดังนั้นทุกคนจึงมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการดูแลรักษาสถานที่ปฏิบัติงานให้ปลอดภัย และมีสุขอนามัยที่ดีสำหรับผู้ปฏิบัติงานทั้งหมด โดยการปฏิบัติตามกฎระเบียบและแนวทางปฏิบัติว่าด้วยความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดี ตลอด จนทำให้สถานปฏิบัติงานปราศจากซึ่งยาเสพติดผิดกฎหมายหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ ห้ามมิให้มีการใช้ยาเสพติดผิดกฎหมาย และ/หรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานที่ปฏิบัติงานโดยเด็ดขาด นอกจากนี้พนักงานทุกคนยังมีหน้าที่ในการรายงานอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และอุปกรณ์ วิธีการปฏิบัติหรือปัจจัยแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย ด้วย
  8. . การบันทึกข้อมูล บริษัทต้องการการบันทึก และการรายงานข้อมูลที่ซื่อตรง และถูกต้อง เพื่อให้สามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างเหมาะสม กรรมการ ผู้บริหารและพนักงาน จึงต้องจัดทำและบันทึกเอกสารข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริงเสมอ รายงานทางบัญชี ทะเบียน และงบการเงินของบริษัททั้งหมด ต้องได้รับการดูแลรักษาในระดับที่เหมาะสมแสดงธุรกรรมของบริษัทอย่างถูกต้อง และสอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงระบบทางบัญชีและการควบคุมภายในของบริษัท อีเมล์ บันทึกภายใน และรายงานที่เป็นทางการต่าง ๆ
  9. การรักษาความลับ กรรมการ ผู้บริการ และพนักงานต้องรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ ได้แก่ ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลสาธารณะทั้งหมดที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับคู่แข่ง หรือเป็นอันตรายต่อบริษัทหรือลูกค้าของบริษัทหากถูกเปิดเผย นอกจากนี้ ยังรวมถึงข้อมูลที่คู่ค้าและ/หรือลูกค้าได้มอบความไว้วางใจให้เราเก็บรักษา โดยกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานมีความรับผิดชอบในการเก็บรักษาข้อมูลที่เป็นความลับดำเนินต่อเนื่องแม้ภายหลังสิ้นสุดการจ้างงาน ยกเว้นในกรณีที่ต้องมีการเปิดเผยตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง หากไม่แน่ใจว่าข้อมูลใดถือเป็นข้อมูลที่เป็นความลับ ให้ปรึกษาผู้บังคับบัญชาของตน
  10. การปกป้องและการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินของบริษัทอย่างเหมาะสม กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน ต้องมีความพยายามในการปกป้องทรัพย์สินของบริษัท และรู้จักการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้ถูกลักขโมยหรือถูกทำให้เกิดการสูญเสียทรัพย์สินไปโดยประมาท หรือ ไม่ใช้ทรัพย์สินตลอดจนอุปกรณ์ของบริษัทในกิจการอื่นใดที่ไม่ใช่เพื่อธุรกิจของบริษัท ทรัพย์สินของบริษัทนั้นหมายรวมถึงข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท อันประกอบด้วย ทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ความลับทางการค้า สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า และลิขสิทธิ์ รวมถึงแผนธุรกิจ แผนการตลาด และแผนการให้บริการ แนวคิดด้านวิศวกรรม และการผลิต การออกแบบ ฐานข้อมูล บันทึกข้อมูลเงินเดือน ข้อมูลและรายงานทางการเงินที่ไม่มีการพิมพ์เผยแพร่ การใช้หรือแจกจ่ายข้อมูลเหล่านี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจะถือเป็นการฝ่าฝืนนโยบายของบริษัท อีกทั้งยังเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และอาจส่งผลให้ได้รับโทษทางแพ่งหรือทางอาญาด้วย
  11. การจ่ายเงินให้บุคลากรของรัฐ ห้ามมิให้มีการจ่ายเงิน ให้สัญญา หรือเสนอผลประโยชน์โดยผิดกฎหมายแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเป็นของขวัญ ของกำนัล หรือเงินตอบแทนอื่น ๆ ให้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ ที่เป็นการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ ระเบียบและข้อกฎหมาย ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการฝ่าฝืนนโยบายของบริษัทเท่านั้น แต่ยังถือเป็นความผิดทางอาญาอีกด้วย
  12. การรายงานพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายหรือไร้จรรยาบรรณ พนักงานควรแจ้งผู้บังคับบัญชา หรือผู้บริหารระดับสูงเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายหรือไร้จรรยาบรรณที่พบเห็น สุดในสถานการณ์ดังกล่าว บริษัทมีนโยบายในการปกป้องผู้รายงานการประพฤติผิดของกรรมการ ผู้บริหารและพนักงาน โดยผู้รายงานสามารถยื่นข้อกังขาโดยสุจริตในเรื่องเกี่ยวกับการประพฤติผิดใด ๆ โดยปราศจากความกลัวการไล่ออกหรือการโต้ตอบทุกประเภท
    ผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรฐานที่กำหนดในหลักจรรยาบรรณนี้ จะถูกพิจารณาดำเนินการทางวินัย โดยมีโทษสูงสุดคือการยุติการจ้างงาน